SCB EIC คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างภาครัฐในปี 2567 จะเติบโตถึง 2% และภาคเอกชน อีก 3% แตะ 1.4 ล้านล้านบาท แนะนำผู้รับเหมาเร่งปรับกลยุทธ์ – คุมต้นทุน และให้ความสำคัญกับการ “ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์” พร้อมบริหารสภาพคล่องให้ดี
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB EIC ได้คาดการณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2567 ทั้งภาครัฐ และเอกชน ว่าการก่อสร้างของภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัว 2% จากไตรมาสก่อนหน้า ขึ้นไปแตะถึง 810,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะเริ่มมีการประมูลโครงการใหญ่เตรียมนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เซ็นอนุมัติ ซึ่งในปี 2024 นี้ รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการปรับปรุงระบบคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยเร่งพัฒนาการคมนาคมขนส่งด้านรถไฟที่เชื่อมโยงถึงการคมนาคมอื่นๆ แต่ทั้งนี้อุตสาหกรรมก่อสร้างในภาครัฐก็ยังคงต้องเผชิญหน้ากับปัจจัยท้าทายด้านความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณประจำปีอยู่ ซึ่งจะกระทบมูลค่าการก่อสร้างภาครัฐในไตรมาส 1 ของปี 2567 ถึงไตรมาส 2 และคาดว่าจะสามารถเร่งเบิกจ่ายได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนั่นเอง
ขณะที่มูลค่าการก่อสร้างของภาคเอกชนในปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 598,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าถึง 3% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของมูลค่าการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในกลุ่มคอนโดมิเนียม รวมถึงการขยายตัวของมูลค่าการก่อสร้างอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และโรงงานอุตสาหกรรมด้วย
นอกจากนี้ ปัญหาหนี้ครัวเรือนกับราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นยังทำให้เกิดความท้าทายสำหรับการเปิดตัวโครงการ และก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มราคาระดับปานกลางลงมา รวมถึงยังต้องจับตาภาวะ Oversupply ที่อาจทำให้ต้องเลื่อน หรือยกเลิกโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่ไม่มีศักยภาพออกไป
อีกทั้งภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างยังต้องเผชิญกับความท้าทายในปี 2567 และในระยะปานกลาง ทั้งเรื่องต้นทุนการก่อสร้างที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องทางการเงิน และแรงกดดันจากเทรนด์ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือ อาทิเช่น
-
เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ และควบคุมต้นทุนก่อสร้าง – รับงานหรือเข้าประมูลงานก่อสร้างในหลากหลายประเภทมากขึ้น ระวังเรื่องการเข้าประมูลงานแบบแข่งขันด้านราคา และสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างล่วงหน้าให้สอดคล้องกับความต้องการใช้
-
บริหารสภาพคล่องทางการเงิน – ด้วยการปรับสัดส่วนการรับงานภาครัฐ และเอกชนให้เหมาะสม รวมถึงควมคุมการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผน เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้ตามกำหนด
-
ลดการปล่อยคาร์บอน (CO2) – จัดหาวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลงทุนนำเทคโนโลยีก่อสร้างมาปรับใช้ นอกจากนี้ ยังต้องตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมที่มีผลมาจากการก่อสร้างมากขึ้นอีกด้วย
รักเหมา หวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับพี่ๆ ผู้รับเหมาในการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจ และการเติบโตในปี 2024 นี้นะคะ สำหรับผู้รับเหมา-จัดซื้อ ที่กำลังมองหาตัวช่วยด้านการจัดซื้อวัสดุก่อสร้าง “แพลตฟอร์มรักเหมา” ช่วยเปรียบเทียบราคาได้ตรงใจ ควบคุม “ต้นทุนก่อสร้าง” ได้มากกว่าที่คิด
สมัครสมาชิกเพื่อขอราคาวัสดุก่อสร้างกับรักเหมา คลิกที่นี่เลย
อีกทั้งยังมาพร้อมเครดิตสินเชื่อป๋าสำหรับจัดซื้อวัสดุก่อสร้างบนแพลตฟอร์มรักเหมาโดยเฉพาะ มอบวงเงินสูงสุดถึง 1 แสนบาท สมัครได้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ปัจจุบันนี้มีบริการใน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่ได้เลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB EIC และ ข่าวหุ้นธุรกิจ
Related Posts
ประกาศผลโปรโมชั่น ‘รักเหมา’ ประจำเดือนตุลาคม 2565
ประกาศผลโปรโมชั่นผู้ใช้งาน ‘รักเหมา’ ประจำเดือนตุลาคม 2565 ติดตามรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลได้ที่นี่! **อัปเดตรายชื่อผู้ได้รับของรางวัล วันที่ 10 พ.ย. 65 เวลา 16.32 น.** 📌 ผู้ใช้งานที่ขอใบเสนอราคาครบ 3 [...]
Nov
เจาะลึกเรื่องภาษี ตั้งแต่ขั้นวางแผน-ติดตามผล ที่ผู้รับเหมายุคใหม่ต้องรู้
ประเด็นสำคัญ วางแผนภาษีเป็นเรื่องสำคัญที่กิจการมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเงินของกิจการ หากกิจการมีการวางแผนภาษีที่ผิดพลาด จะส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาโดยไม่จำเป็น นอกจากนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาที่มีผลทางกฎหมายตามมาด้วย วางแผนภาษีเป็นการเตรียมการเพื่อเสียภาษีอย่างถูกต้อง ตลอดจนใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ อย่างคุ้มค่า เพื่อบรรเทาภาระภาษีให้น้อยลง ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการเสียภาษีไม่ถูกต้องได้ การวางแผนภาษีเป็นเรื่องสำคัญที่กิจการต้องให้ความสำคัญ เพราะหากหลงลืม ละเลย [...]
Aug