เริ่มต้นทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง มีวิธีการชำระเงินแบบไหนบ้าง ?
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่หลายคนใฝ่ฝัน ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนเริ่มต้นรับงานนั่นก็คือ ‘วิธีจัดการสภาพคล่องที่ดีให้ธุรกิจ’ โดยเฉพาะเงินทุนที่ใช้จัดซื้อวัสดุก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักๆ ในการทำรับเหมาฯ ที่มีผลต่อการควบคุมคุณภาพ และต้นทุนของโครงการเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการเลือกวิธีชำระเงินเพื่อให้ธุรกิจไปต่อ และเกิดสภาพคล่องมากที่สุดจึงเป็นโจทย์สำคัญที่ผู้รับเหมา-จัดซื้อควรบริหารให้เหมาะกับธุรกิจตัวเองมากที่สุด
บทความนี้ รักเหมา ขอพาทุกคนทำความรู้จักกับ 7 วิธีชำระเงินสำหรับการทำธุรกิจรับเหมา เมื่อซื้อวัสดุก่อสร้างควรเลือกจ่ายเงินแบบไหนให้เกิดสภาพคล่องมากที่สุด แต่ละแบบมีข้อดี – ข้อเสียอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลให้พี่ ๆ ผู้รับเหมามือใหม่ได้นำไปปรับใช้กันค่ะ
1. จ่ายเงินสดโดยตรงกับร้าน
เป็นวิธีชำระเงินที่ได้ราคาดีแต่เสียสภาพคล่องทางการเงินได้ง่ายหากไม่มีเงินสำรอง จึงเป็นวิธีที่ค่อนข้างเหมาะกับการซื้อเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าหากผู้รับเหมามีเงินเย็นเพียงพอ และมั่นใจเรื่องการบริหารเงินก็สามารถเลือกใช้วิธีนี้ในการชำระเงินได้
ข้อดี-ข้อเสีย : ได้ราคาดี แต่เสียสภาพคล่องง่าย เหมาะกับการซื้อของล็อตเล็กๆ ช่วงที่มีเงินเย็น
2. จ่ายผ่านบัตรเดบิต
เป็นวิธีคล้ายกับการจ่ายเงินสด แต่ดีกว่าตรงที่ไม่ต้องพก หรือถือเงินสดก้อนใหญ่เพื่อนำไปจ่ายที่ร้านด้วยตัวเอง มีข้อควรระวังคือไม่ใช่ทุกร้านวัสดุก่อสร้างจะมีเครื่องรับชำระการจ่ายด้วยบัตรเดบิต
ข้อดี-ข้อเสีย : ไม่ต้องถือเงินสด แต่บางร้านไม่มีเครื่องรับชำระ เหมาะกับการซื้อของล็อตเล็กๆ ช่วงที่มีเงินเย็น
3. จ่ายเครดิตเทอมกับร้าน
การจ่ายเครดิตเทอม คือการตกลงกับร้านค้าเพื่อขอนำวัสดุไปใช้ก่อน แล้วค่อยนำเงินมาจ่ายทีหลัง ส่วนมากระยะเวลาเครดิตมีตั้งแต่ 15 / 30 / 45 และ 60 วัน ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของผู้รับเหมากับร้านค้า เนื่องจากระยะเวลาเครดิตที่ร้านมอบให้จะมีผลกับราคาที่ทางร้านบวกเพิ่มเข้าไป แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีชำระเงินที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้มากขึ้น
ข้อดี-ข้อเสีย : การเงินมีสภาพคล่อง แต่ร้านมีบวกราคาเพิ่ม ต้องตกลงกับร้านเพื่อขอจ่ายเงินใน 15/30/45/60 วัน
4. จ่ายด้วยเครดิตสินเชื่อ
ร้านวัสดุก่อสร้างบางร้านอาจไม่ได้ปล่อยเครดิตเทอมให้ลูกค้าโดยตรง แต่จะมีบริษัทสินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมายเข้ามาให้วงเงินเครดิตสินเชื่อทั้งในรูปแบบ Bank และ Non-Bank โดยผู้รับเหมาจะมีโอกาสได้รับเงินก้อนมาใช้จ่ายไปก่อนแล้วค่อยนำมาจ่ายในภายหลังตามกำหนดสัญญาหรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง’
เพิ่มเงินทุนหมุนเวียนไม่มีสะดุดกับ ‘เครดิตสินเชื่อป๋า’ ใช้ซื้อวัสดุก่อสร้างบนแพลตฟอร์มรักเหมาโดยเฉพาะ สมัครง่ายได้วงเงินสูง พร้อมให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ วงเงินสูงสุด 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมพิเศษ เริ่มต้น 2.09%*
ข้อดี-ข้อเสีย : การเงินมีสภาพคล่อง แต่อาจมีค่าธรรมเนียมและ/หรือดอกเบี้ย เช่น วงเงินซื้อก่อนจ่ายทีหลัง, สินเชื่อ SME, สินเชื่อส่วนบุคคล
5. จ่ายผ่านบัตรเครดิต
กรณีที่ผู้รับเหมา หรือฝ่ายจัดซื้อไม่มีเครดิตกับร้านค้าประจำ หรือไปเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างผ่านรักเหมา หรือร้านค้าใหญ่ ๆ อย่าง ร้าน Modern Trade การเลือกชำระด้วยบัตรเครดิตจะมีข้อดีคือ สามารถช่วยคงสภาพคล่องทางการเงินของผู้ซื้อไว้ได้ โดยที่บัตรเครดิตบางค่ายอาจมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การผ่อนชำระ 0%, Cash back หรือการสะสมแต้ม เป็นต้น แต่ในขณะเดียวกันบางบัตรเครดิตก็อาจมีดอกเบี้ย หากไม่จัดการให้ดีก็อาจทำให้มีหนี้สะสม และต้นทุนที่สูงขึ้นได้
ข้อดี-ข้อเสีย : การเงินมีสภาพคล่อง พร้อมรับสิทธิประโยชน์จากบัตร แต่อาจมีค่าธรรมเนียมและ/หรือดอกเบี้ย
6. จ่ายผ่าน Payment Gateway
มีความสะดวกสบาย และเลือกจ่ายได้หลายวิธี เช่น บัตรเครดิต / เดบิต และ QR Code ซึ่งส่วนมากร้านที่รับจ่ายแบบ Payment Gateway จะเป็นร้านวัสดุก่อสร้างที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์ และ E-Commerce รวมถึงแพลตฟอร์มจัดซื้อวัสดุก่อสร้าง ‘รักเหมา’
ข้อดี-ข้อเสีย : สะดวกสบาย เลือกจ่ายได้หลายวิธี เช่น บัตรเครดิต/เดบิต และ QR Code แต่ส่วนมากใช้ได้กับร้านค้าออนไลน์
Payment Gateway บริการชำระเงินค่าวัสดุก่อสร้างผ่านแพลตฟอร์มรักเหมา ด้วยบัตรเครดิต/เดบิต และ QR Code
7. จ่ายด้วยบัตรเครดิตองค์กร *เร็วๆ นี้*
ผู้รับเหมาในรูปแบบนิติบุคคลจะมีตัวเลือกที่มากขึ้นในการจ่ายค่าวัสดุก่อสร้างด้วยบัตรเครดิตองค์กร โดยที่บัตรเครดิตองค์กรจะมีวิธีการใช้งานคล้ายบัตรเครดิตทั่วไป แต่มักได้รับดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าการจ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือเครดิตสินเชื่อ
เพย์ ซูน พาร์ทเนอร์ล่าสุดของรักเหมา เพิ่มทางเลือกการชำระเงินให้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย สามารถเปลี่ยนวงเงินในบัตรเครดิตองค์กร ให้กลายเป็นวงเงินซื้อวัสดุก่อสร้างได้เลย ชำระได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่มีดอกเบี้ยหากชำระเต็มจำนวนภายใน 45 วัน สามารถติดตามและเริ่มต้นในงานได้ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้
ข้อดี-ข้อเสีย : คล้ายกับการจ่ายด้วยบัตรเครดิต แต่มีวงเงินสูงกว่า และดอกเบี้ยต่ำกว่า
เป็นยังไงกันบ้างคะ? กับ 7 วิธีชำระเงินที่สามารถทำได้เมื่อเริ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง พี่ ๆ สามารถนำวิธีที่เหมาะสมไปปรับใช้กันได้เลย เช่น เมื่อซื้อวัสดุก่อสร้างจำนวนน้อย อาจเหมาะกับการจ่ายเงินสด แต่หากซื้อวัสดุจำนวนมาก ก็สามารถเลือกจ่ายเครดิตเทอมกับร้าน หรือบัตรเครดิต บัตรเครดิตองค์กร ที่สามารผ่อนชำระกับทางธนาคารได้นั่นเอง
จัดซื้อวัสดุก่อสร้างกับ ‘รักเหมา’ หมดกังวลเรื่องการชำระเงิน สามารถเลือกชำระได้หลายช่องทางพร้อม Financial Partner ที่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะชำระผ่านบัตรเดบิต, ผ่อนชำระบัตรเครดิต, QR Code พร้อมเพย์, เงินสด, เครดิตเทอมกับร้านค้า, เครดิตสินเชื่อป๋า หรือบัตรเครดิตองค์กร ก็สบายใจหายห่วง
รักเหมา แพลตฟอร์มจัดซื้อวัสดุก่อสร้างออนไลน์
ทำความรู้จัก “รักเหมา” แพลตฟอร์มจัดซื้อวัสดุก่อสร้างออนไลน์ ที่จะเปลี่ยนการจัดซื้อให้เป็นเรื่องง่าย ช่วยผู้รับเหมาและฝ่ายจัดซื้อให้เข้าถึงร้านค้าวัสดุก่อสร้างกว่า 320 ร้านค้าทั่วไทยอย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยระบบ E-Procurement ที่จะเข้ามายกระดับงานจัดซื้อให้มืออาชีพ ได้ราคาไว ของครบ จบทุกสินค้าโครงการ
ติดตาม “รักเหมา” ได้ที่
LINE OA @rakmao (08.00-17.00) คลิกที่นี่
ดูวิธีขอใบเสนอราคาแบบจับมือทำ ดูคลิปเลย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- [อัปเดตฟีเจอร์ใหม่] ปรับเปลี่ยน-ยืนยันคำสั่งซื้อก่อนออก PO ได้แล้ว! ด้วยฟีเจอร์ Order Confirmation
- 10 วัสดุก่อสร้างที่ไม่ค่อยมีคนรู้ ว่าจัดซื้อได้ง่ายๆ ผ่านรักเหมา
Related Posts
ประกาศผลโปรโมชั่นรักเหมา ประจำเดือนมกราคม 2567
ประกาศผลโปรโมชั่นผู้ใช้งาน ‘รักเหมา’ ประจำเดือนมกราคม 2567 ติดตามรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลได้ที่นี่! 📌 ขอราคาครั้งแรกครบ 3 ครั้ง รับบัตรโลตัส ฟรี! มูลค่า 100 บาท [...]
Feb
ประกาศผลโปรโมชัน ‘รักเหมา’ ประจำเดือนกรกฎาคม 2565
ประกาศผลโปรโมชั่นผู้ใช้งาน ‘รักเหมา’ ประจำเดือนกรกฎาคม 2565 ติดตามรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลได้ที่นี่! 📌 ผู้ใช้งานที่ขอใบเสนอราคาครั้งแรก รับฟรี บัตรโลตัส มูลค่า 100 บาท Panwat pornp [...]
Aug